ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระครูนิเทศสาครธรรม (หลวงพ่อเล้ง จนฺทสุวณฺโณ)

คงมีบางอย่างดลใจให้แอดมินได้พบกับหนังสือเล่มนี้ที่เดินทางไกลมาจากเชียงใหม่ หลังจากคุยกับแฟนเพจท่านที่สอบถามเกี่ยวกับเรื่องวัดนางสาวเข้ามาผ่านทางแชต โดยช่วงหนึ่งมีการกล่าวถึงประวัติหลวงพ่อเล้ง อดีตเจ้าอาวาสวัดนางสาว

อยู่ดีๆ วันรุ่งขึ้นแอดมินก็ได้พบกับหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ

จึงนำหน้าปกมาให้ชม พร้อมกันนี้ได้ทำสรุปประวัติคร่าวๆ หลวงพ่อเล้ง ให้ได้อ่านกันพอสังเขป ส่วนรูปถ่ายท่านคงน่าจะพอมีคนกระทุ่มแบนที่เก็บไว้ แต่แอดมินต้องขอไปสืบค้นก่อนครับ


เล่มนี้พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑ ในงานพระราชทานเพลิงศพท่าน โดยมีขุนสุคนธวิทศึกษากรเป็นประธานจัดงาน มีนายอำเภอและบุคคลในกระทุ่มแบนเขียนบทความในเล่มนี้

ปกหลังระบุว่าพิมพ์ที่โรงพิมพ์ศรีการช่าง ตลาดกระทุ่มแบน สมุทรสาคร นายชลอ ศรีสุกใส ผู้พิมพ์โฆษณา


ประวัติโดยสรุปย่อ

พระครูนิเทศสาครธรรม (หลวงพ่อเล้ง จนฺทสุวณฺโณ)

▪️ นามเดิมชื่อ เล้ง นามสกุล ไร่ผล

▪️ เกิด ๔ กรกฎาคม ๒๔๒๔ ที่บ้าน ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

▪️ เป็นบุตรลำดับที่ ๔ ในจำนวนบุตรทั้งหมด ๗ คน

▪️ มารดาชื่อนางเย็น ไร่ผล, บิดาชื่อนายบุญมา ไร่ผล

▪️ พ.ศ. ๒๔๕๐ อายุ ๒๖ ปี อุปสมบทที่วัดนางสาว มีหลวงพ่อแสง เจ้าอาวาสวัดนางสาวขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อแก้ว ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชาย เป็นพระกรรมวาจาจารย์, ท่านพระครูถาวรสมณศักดิ์ (หลวงพ่อคง) เป็นพระอนุสาสนาจารย์

▪️ พ.ศ. ๒๔๕๘ ย้ายไปวัดหงอนไก่ ตามคำชวนหลวงพ่อคงเพื่อไปช่วยงานด้านก่อสร้างอยู่ ๑ ปีจึงย้ายกลับวัดนางสาว

▪️ พ.ศ. ๒๔๖๐ ชาวอ้อมน้อยอาราธนาให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยจนถึง พ.ศ. ๒๔๘๗

▪️ พ.ศ. ๒๔๘๗ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่าไม้ และเจ้าอาวาสวัดนางสาว

▪️ พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

▪️ พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์ดำรงตำแหน่งเป็น “พระครูนิเทศสาครธรรม”

▪️ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๐ มรณภาพด้วยโรคชราอย่างสงบ ที่วัดนางสาว เมื่ออายุ ๗๗ ปี


สรุปข้อมูลจาก "หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเล้ง" 

โดย... แอดมิน เพจกระทุ่มแบนโฟโต้
บันทึกเมื่อ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชื่อ "กระทุ่มแบน" มาจากไหน

"บ้านน้องอยู่ที่ไหนนะ?" "กระทุ่มแบนครับ" "แล้ว กระทุ่มแบน เนี่ย ทำไมมันถึงชื่อนี้?" "อืม..ไม่แน่ใจ...ไม่ทราบเลยครับ" เชื่อได้ว่าคนกระทุ่มแบนหลายคนคงจะคุ้นเคยกับบทสนทนาประมาณข้างต้น ที่ตอบได้เพียงคำถามแรก แต่เมื่อถึงคำถามที่สอง เซลล์สมองอาจต้องวิ่งทำงานเหนื่อยกันเลยทีเดียว สุดท้ายบางคนตอบได้ บางคนเดาไป บางคนถามกลับว่า "อยากจะรู้ไปทำไม" สำหรับผมแล้ว... "กระทุ่มแบน...ทำไมมันถึงชื่อนี้" มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจมาหลายปี จนกระทั่งวันที่พอจะมีกำลังและเวลา รวมถึงความพร้อมประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ออกค้นหาคำตอบเสียที ภาพแผนที่ตัดเฉพาะส่วนจากกรมแผนที่ทหารบกสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2456 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

วัดนางสาวมีโบสถ์ มหาอุด หรือ มหาอุตม์ เขียนแบบไหน?

โบสถ์มหาอุด วัดนางสาว ถ่ายเมื่อ 1 ม.ค. 2562 คงเป็นเรื่องเหลือเชื่อถ้าบอกว่าเป็นคนกระทุ่มแบนแต่ไม่รู้จักวัดนางสาว เพราะเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนา มีตำนานเรื่องเล่ามากมายหลากหลายเรื่อง รวมถึงโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์และพิเศษกว่าหลายๆ โบสถ์ของวัดในเมืองไทย ส่วนประวัติวัดนางสาว และเรื่องราวประกอบอื่นๆ ผมคงได้รวบรวมข้อมูล ประวัติต่างๆ เพื่อเขียนให้ได้อ่านกันในบทความถัดๆ ไป ในตอนนี้ขอกล่าวถึง โบสถ์หรืออุโบสถที่วัดนางสาว  อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง ด้านหน้ามีพาไลหรือพะไลยื่นออกมา 1 ห้อง (พาไลหรือพะไล แปลว่า เรือนหรือเพิงโถง ต่อจากเรือนเดิมหรืออยู่ในบริเวณของเรือนเดิม ใช้เป็นที่นั่งเล่นหรือประโยชน์อื่นๆ ซึ่งไม่ใช่ห้องนอน)  มีเสาปูนสี่เหลี่ยมรองรับโครงหลังคาจำนวน 4 ต้น ช่อฟ้าใบระกาเป็นปูนปั้นประดับกระจก ผนังอุโบสถก่ออิฐถือปูน มีประตูเข้าออกด้านหน้าเพียงประตูเดียว ไม่มีหน้าต่าง ปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมใหม่โดยปูหินอ่อนภายใน มีลายจิตรกรรมฝาผนัง ด้านผนังนอกมีการปรับเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผาที่มี

เปิดตำนาน "ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่มแบน"

หากค้นรูปถ่ายติดบัตรขาวดำเก่าๆ ยุค 2500 ที่บ้านของคนกระทุ่มแบนขึ้นมาดู ผมเชื่อว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของรูปถ่ายเหล่านั้น บนมุมซ้ายหรือขวาด้านล่างของรู ปจะต้องมีตราประทับแบบนูนของร้ านถ่ายรูปแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่นิยมและได้รั บความไว้วางใจจากชาวกระทุ่ มแบนมาอย่างยาวนาน นั่นคือ "ห้องภาพชูศิลป์ : ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่ มแบน" หลังจากหาเวลานัดหมายกับห้องภาพชูศิลป์ ให้จังหวะลงตัวกับวันที่ ผมพอจะว่างจากทั้ งงานประจำและงานพิเศษในวันหยุ ดเสาร์-อาทิตย์เรียบร้อย ผมจึงได้มีโอกาสฟังเรื่องราวดีๆ จากทายาทผู้ก่อตั้ง "ห้องภาพชูศิลป์" ในวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2562 คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" ลูกสาวคนโตของเจ้าของห้องภาพชูศิลป์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2492 ได้บอกเล่าให้ผมได้ฟังด้วยรอยยิ้ มอารมณ์ดีถึงประวัติห้องภาพชูศิลป์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในรุ่นของคุ ณพ่อและคุณแม่  คุณพ่อมีลูก 5 คน คือ คุณป้าเป็นคนโต มีน้องชาย 3 คน และน้องสาวคนเล็กอีกคน   คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" จุดเริ่มต้นของอาชีพถ่ายภาพ คุณแม่ป้าเช็งชื่อ &quo