ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ต้องการภาพถ่ายเก่าโบสถ์หลังเก่าวัดหงอนไก่เพื่อเป็นข้อมูลในการบูรณะโบสถ์

ผมได้รับการติดต่อทางเพจกระทุ่มแบนโฟโต้มาจากท่านผู้ช่วย รองเจ้าอาวาสวัดหงอนไก่ พระธีรพงษ์ ฟองน้ำทิพย์ เรื่องภาพเก่าที่เห็นโบสถ์หลังเก่าของวัดหงอนไก่ เพื่อต้องการนำไปเป็นข้อมูลในการบูรณะโบสถ์เก่าหลังนี้ที่ชำรุดทรุดโทรมให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ดียิ่งขึ้น



สภาพโบสถ์หลังเก่า วัดหงอนไก่
ทั้งภายใน ภายนอก และบริเวณโดยรอบที่ชำรุดทรุดโทรม 
ผมถ่ายไว้เมื่อ 22 มิถุนายน 2556

ผมดีใจไม่รอช้า เพราะติดตามและลงพื้นที่มาหลายปีก่อน เห็นถึงสภาพความทรุดโทรมของโบสถ์เก่าสร้างครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีต้นไม้รกชัฏปกคลุมเต็มไปหมด ในบางช่วงเวลาที่ฝนตกก็มีน้ำท่วมขัง บริเวณทางเข้าโบถส์ถูกตีไม้ปิดกั้นไว้ด้วยคงเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อสาธุชนหรือคนที่จะเข้าไปด้านใน ที่มีเสาไม้ล้มแตกหัก ฐานพระชำรุด หลังคารั่วซึมทะลุ


พระสงฆ์วัดหงอนไก่กำลังช่วยกันปรับสถานที่ทั้งภายในและภายนอกโบสถ์หลังเก่า
เพื่อเตรียมสถานที่เบื้องต้นในการบูรณะโบสถ์ จากกรมศิลปากร
เมื่อตุลาคม 2564 (ภาพจากพระธีรพงษ์ ฟองน้ำทิพย์)

พระธีรพงษ์ ผู้ช่วยรองเจ้าอาวาสวัดหงอนไก่ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โบสถ์หลังเก่านี้กำลังลังจะได้รับการบูรณะ จากทางกรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบพื้นที่นี้อยู่ โดยอยู่ในแผนปีงบประมาณปี 2567

โดยเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้ลงพื้นที่สำรวจโบสถ์เก่า วัดหงอนไก่ เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ และตรวจสอบสภาพโบสถ์ในปัจจุบัน สำหรับการบูรณะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องการภาพถ่ายเก่าที่เห็นถึงสภาพโบสถ์หลังเก่านี้จากภายนอกที่เห็นส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าบัน เสา ลวดลายต่างๆ รวมถึงรูปแบบภายใน องค์พระ ฐานชุกชี หรือกล่าวง่ายๆ ก็คือ ทุกส่วนประกอบของโบสถ์หลังเก่านี้ เพื่อจะได้นำไปเป็นข้อมูลสำหรับการบูรณะให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ถูกต้องใกล้เคียงกับโบสถ์หลังเดิมมากที่สุด

คณะเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่๑ราชบุรีลงพื้นที่เก็บภาพและหาข้อมูลในการบูรณะอุโบสถหลังเก่า
คณะเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 1 ราชบุรี
ลงพื้นที่เก็บภาพและหาข้อมูลในการบูรณะอุโบสถหลังเก่า
เมื่อ ตุลาคม 2564
(ภาพจากพระธีรพงษ์ ฟองน้ำทิพย์)

ผมค้นภาพเก่าที่ได้รับการเอื้อเฟื้อให้สำเนาจากชาวกระทุ่มแบน ในส่วนที่พอจะเกี่ยวข้องกับโบสถ์หลังเก่าวัดหงอนไก่ แต่ก็พบเพียงเล็กน้องเท่านั้น จึงอยากขอประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้กับพี่น้องชาวกระทุ่มแบน ที่มีภาพถ่ายเก่าของโบสถ์หลังเดิม วัดหงอนไก่นี้ ในช่วงที่ยังมีการใช้งานกิจทางสงฆ์ ประกอบพิธีทางสงฆ์ต่างๆ ภายในโบสถ์ ไม่ว่าจะเป็นจากงานบุญ งานบวชต่างๆ หรือการถ่ายภาพเล่นทั่วไปของชาวบ้านในพื้นที่ เป็นภาพถ่ายขาวดำยุคก่อน พ.ศ. 2510 หรือหากเป็นภาพก่อน พ.ศ. 2500 จะดีมากๆ ครับ หรือหากมีข้อมูลบอกเล่าจากรุ่นคุณปู่ย่าตายาย พ่อแม่ในพื้นที่ที่เกี่ยวกบโบสถ์นี้ ก็สามารถโพสต์ภาพไว้ได้ใต้คอมเมนต์โพสต์นี้เลยครับ หรือส่งมาทาง inbox เพจกระทุ่มแบนโฟโต้ หรือเฟซบุ๊กท่านผู้ช่วย รองเจ้าอาวาสวัดหงอนไก่ก็ได้เช่นกัน

ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญ สำหรับภาพเก่าที่ช่วยกันตามหาและจะส่งเข้ามาล่วงหน้าด้วยครับ ภาพของทุกท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณะโบสถ์เก่าแก่ วัดหงอนไก่ ศูนย์รวมใจอีกแห่งหนึ่งของชาวกระทุ่มแบนให้กลับมางดงาม เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวของกระทุ่มแบนด้วยครับ

ตัวอย่างภาพที่ต้องการครับ
ตัวอย่างภาพที่ 1 มองเห็นโบสถ์จากภาพนอก มองเห็นหน้าบันโบสถ์


ภาพถ่ายผลงานคุณเตี๋ยงเพ้ง แซ่ปึง เจ้าของห้องภาพชูศิลป์ กระทุ่มแบน รูปหมู่คณะพระสงฆ์วัดหงอนไก่ หรือวัดราษฎร์บำรุง ถ่ายบริเวณหน้าพระอุโบสถหลังเก่า
(ขอบคุณเจ้าของภาพ ห้องภาพชูศิลป์ กระทุ่มแบน)

ตัวอย่างภาพที่ 2 มองพระประธานและฐานชุกชีภายในโบสถ์

หลวงพ่อไสวกับพระประธานในโบสถ์หลังเก่า (ภาพจากเพจวัดราษฎร์บำรุง หงอนไก่)

ตัวอย่างภาพที่ 3 มองเห็นด้านข้างโบสถ์

บรรยากาศการแห่นาคในงานบวชรอบโบสถ์หลังเก่า วัดหงอนไก่
(ขอบคุณภาพจาก พี่หนึ่ง ระนาดเสนาะ)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุโบสถหลังเก่าคัดลอกจาก 
ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม จ.สมุทรสาคร กระทรวงวัฒนธรรม


พระอุโบสถหลังเก่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ปีใดไม่มีหลักฐานระบุ แต่มีพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. 2450

อุโบสถหลังเก่า เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดค่อนข้างเล็ก หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องว่าว มีพาไล (เรือน หรือเพิงโถงต่อจากเรือนเดิม /แอดมิน) มุงสังกะสียื่นออกมาทั้งด้านหน้าและหลังด้านละ 1 ห้อง รองรับโครงหลังคาด้วยเสาไม้กลม ช่อฟ้าไม้ชำรุด ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพระอุโบสถ และรวยระกาไม้แบบมอญ หน้าบันปูนปั้นตกแต่งลวดลาย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านบนเป็นรูปเทพพนม ถัดลงมาเป็นหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากัน มีลวดลายดอกไม้ประดับด้วยเครื่องถ้วยชามเคลือบสี และเครื่องลายครามแบบจีน ด้านล่างของหน้าบันเป็นรูปมังกรคู่หันหน้าชนกัน อิทธิพลศิลปะแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3

ผนังอุโบสถก่ออิฐถือปูน มีประตูทางเข้าด้านหน้าและหลังด้านละ 2 ประตู ซุ้มประตูและหน้าต่างปูนปั้นลายพันธุ์พฤกษา ภายในอุโบสถมีฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูป ปัจจุบันพระพุทธรูปถูกย้ายออก ไปเก็บรักษาไว้ภายในพระอุโบสถหลังใหม่ และศาลาการเปรียญจำนวนทั้งสิ้น 10 องค์ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูป ศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในจำนวนนี้มีพระพุทธรูปที่ทำจากหินทรายแดงศิลปะอยุธยาตอนปลาย 2 องค์ และมีพระพุทธรูปสององค์มีจารึกที่ฐานระบุปี พ.ศ. 2475 พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง มีจารึกเป็นตัวอักษรคล้ายอักษรขอมและตัวเลข 2440 ปัจจุบันสภาพของพระอุโบสถชำรุด หลังคารั่ว ผนังอิฐแตกร้าว ปูนฉาบหลุดออก



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชื่อ "กระทุ่มแบน" มาจากไหน

"บ้านน้องอยู่ที่ไหนนะ?" "กระทุ่มแบนครับ" "แล้ว กระทุ่มแบน เนี่ย ทำไมมันถึงชื่อนี้?" "อืม..ไม่แน่ใจ...ไม่ทราบเลยครับ" เชื่อได้ว่าคนกระทุ่มแบนหลายคนคงจะคุ้นเคยกับบทสนทนาประมาณข้างต้น ที่ตอบได้เพียงคำถามแรก แต่เมื่อถึงคำถามที่สอง เซลล์สมองอาจต้องวิ่งทำงานเหนื่อยกันเลยทีเดียว สุดท้ายบางคนตอบได้ บางคนเดาไป บางคนถามกลับว่า "อยากจะรู้ไปทำไม" สำหรับผมแล้ว... "กระทุ่มแบน...ทำไมมันถึงชื่อนี้" มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจมาหลายปี จนกระทั่งวันที่พอจะมีกำลังและเวลา รวมถึงความพร้อมประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ออกค้นหาคำตอบเสียที ภาพแผนที่ตัดเฉพาะส่วนจากกรมแผนที่ทหารบกสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2456 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

วัดนางสาวมีโบสถ์ มหาอุด หรือ มหาอุตม์ เขียนแบบไหน?

โบสถ์มหาอุด วัดนางสาว ถ่ายเมื่อ 1 ม.ค. 2562 คงเป็นเรื่องเหลือเชื่อถ้าบอกว่าเป็นคนกระทุ่มแบนแต่ไม่รู้จักวัดนางสาว เพราะเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนา มีตำนานเรื่องเล่ามากมายหลากหลายเรื่อง รวมถึงโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์และพิเศษกว่าหลายๆ โบสถ์ของวัดในเมืองไทย ส่วนประวัติวัดนางสาว และเรื่องราวประกอบอื่นๆ ผมคงได้รวบรวมข้อมูล ประวัติต่างๆ เพื่อเขียนให้ได้อ่านกันในบทความถัดๆ ไป ในตอนนี้ขอกล่าวถึง โบสถ์หรืออุโบสถที่วัดนางสาว  อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง ด้านหน้ามีพาไลหรือพะไลยื่นออกมา 1 ห้อง (พาไลหรือพะไล แปลว่า เรือนหรือเพิงโถง ต่อจากเรือนเดิมหรืออยู่ในบริเวณของเรือนเดิม ใช้เป็นที่นั่งเล่นหรือประโยชน์อื่นๆ ซึ่งไม่ใช่ห้องนอน)  มีเสาปูนสี่เหลี่ยมรองรับโครงหลังคาจำนวน 4 ต้น ช่อฟ้าใบระกาเป็นปูนปั้นประดับกระจก ผนังอุโบสถก่ออิฐถือปูน มีประตูเข้าออกด้านหน้าเพียงประตูเดียว ไม่มีหน้าต่าง ปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมใหม่โดยปูหินอ่อนภายใน มีลายจิตรกรรมฝาผนัง ด้านผนังนอกมีการปรับเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผาที่มี

เปิดตำนาน "ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่มแบน"

หากค้นรูปถ่ายติดบัตรขาวดำเก่าๆ ยุค 2500 ที่บ้านของคนกระทุ่มแบนขึ้นมาดู ผมเชื่อว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของรูปถ่ายเหล่านั้น บนมุมซ้ายหรือขวาด้านล่างของรู ปจะต้องมีตราประทับแบบนูนของร้ านถ่ายรูปแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่นิยมและได้รั บความไว้วางใจจากชาวกระทุ่ มแบนมาอย่างยาวนาน นั่นคือ "ห้องภาพชูศิลป์ : ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่ มแบน" หลังจากหาเวลานัดหมายกับห้องภาพชูศิลป์ ให้จังหวะลงตัวกับวันที่ ผมพอจะว่างจากทั้ งงานประจำและงานพิเศษในวันหยุ ดเสาร์-อาทิตย์เรียบร้อย ผมจึงได้มีโอกาสฟังเรื่องราวดีๆ จากทายาทผู้ก่อตั้ง "ห้องภาพชูศิลป์" ในวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2562 คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" ลูกสาวคนโตของเจ้าของห้องภาพชูศิลป์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2492 ได้บอกเล่าให้ผมได้ฟังด้วยรอยยิ้ มอารมณ์ดีถึงประวัติห้องภาพชูศิลป์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในรุ่นของคุ ณพ่อและคุณแม่  คุณพ่อมีลูก 5 คน คือ คุณป้าเป็นคนโต มีน้องชาย 3 คน และน้องสาวคนเล็กอีกคน   คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" จุดเริ่มต้นของอาชีพถ่ายภาพ คุณแม่ป้าเช็งชื่อ &quo